การเทรด Forex คือการเก็งกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงิน หรือ Forex (ฟอเร็กซ์ หรือบางที่อาจจะมีชื่อย่อว่า FX) ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง (หยุดเสาร์ - อาทิตย์) 1 ในรูปแบบการลงทุนที่สะดวกและนิยมอย่างมากในหมู่นักเทรด มีปริมาณการซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินเฉลี่ย 5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวัน
มีการซื้อขายสกุลเงินกันทั่วโลก นักเทรดรายย่อยสามารถซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex ผ่านโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ ที่ทำหน้าที่รับ-ส่งคำสั่งซื้อขาย
การซื้อขายในตลาด Forex เราจะจับคู่สองสกุลเงินเข้าด้วยกัน เรียกว่า “คู่เงิน” เมื่อนำสกุลเงินทั้งสองมารวมกันจะเขียนออกมาได้แบบนี้: AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย / ดอลลาร์สหรัฐ) สกุลเงินแรกในคู่เงินนี้จะถูกเรียกว่าสกุลเงินหลัก และสกุลเงินที่สองจะถูกเรียกว่าสกุลเงินอ้างอิง สกุลเงินหลักคือสกุลเงินที่คุณซื้อ สกุลเงินอ้างอิงคือสกุลเงินที่คุณขายเพื่อรับสกุลเงินหลัก ราคาคือจำนวนสกุลเงินหลักที่คุณสามารถซื้อต่อ 1 หน่วยของสกุลเงินอ้างอิง คู่เงินนี้จะถูกแสดงออกมาในลักษณะนี้ AUD/USD 0.67 ในกรณีนี้ AUD คือสกุลเงินหลักและ USD คือสกุลเงินอ้างอิง กล่าวอีกนัยหนึ่ง คุณสามารถซื้อ $1 AUD ในราคา $0.67 USD
คุณสามารถเก็งกำไรจากการเทรดฟอเร็กซ์ สะสมกำไรทีละน้อย สร้างกำไรอย่างมั่นคงในตลาดนี้ทุกวัน หลังจากอ่านบทความนี้คุณจะเข้าใจพื้นฐานการเทรด Forex และวิธีเริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักเทรดฟอเร็กซ์ด้วยตัวเอง
การเทรด Forex คืออะไร
การเทรด Forex คือการแปลงสกุลเงินฟีเอทให้เป็นสกุลเงินอีกประเภทโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงค่าเงินในกลุ่มเหรียญต่างๆ นักเทรด Forex มักใช้สัญญาณสำหรับความแตกต่าง (CFDs) เพื่อซื้อและขายคู่เงิน Forex นี้ CFDs Forex เหล่านี้ติดตามราคาปัจจุบันของคู่เงิน Forex ทำให้นักเทรดสามารถพัฒนารายได้จากการเดาราคาโดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสกุลเงินหลัก
กลับมาพูดถึงคู่ GBP/USD เป็นตัวอย่าง นักเทรดมีเป้าหมายที่จะได้รับ "pips" มากที่สุดเท่าที่จะเปิดราคาสูงขึ้น Pips ย่อมาจากคำว่า "points in percentage" แทนการเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กที่สุดในการอ้างถึง Forex โดยทั่วไปคือจุดทศนิยมที่สี่ บางคู่เงินยังมีจุดทศนิยมที่ห้าที่รู้จักกันด้วยนามว่า "pipette"
สิ่งที่มีอิทธิพลต่อราคาเงินตราในตลาดฟอเร็กซ์
ค่าเงินมีความเชื่อมโยงกับความต้องการของคนทั่วโลก (Global Demand) ในสินค้าและบริการของประเทศหรือตลาดนั้นๆ บางสกุลเงินถูกนำมาใช้งานในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจ เช่น EURO ดังนั้นสกุลเงินจะมีการแข็งหรืออ่อนค่าเป็นระยะ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถส่งผลต่อ Demand และราคาได้ เช่น
-
เสถียรภาพทางภูมิรัฐศาสตร์ฃบยวง
รัฐบาลที่มั่นคงและปฏิบัตินโยบายการเงินอย่างมีเสถียรภาพมักจะมีเงินตราที่แข็งแกร่ง ความวุ่นวายทางการเมืองหรือการตัดสินใจที่ส่งต่อความมั่นใจนักลงทุนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภาษีหรือการจัดสรรงบประมาณ สามารถสร้างแรงกดดันต่อมูลค่าของสกุลเงินส่งผลให้เงินตราอ่อนแอลง
ตัวอย่างหนึ่งของสิ่งนี้คือการตัดสินใจของสหราชอาณาจักร (UK) ในการออกจากสมาคมยุโรป (EU) ในปี 2016 ทำให้ค่าเงินปอนด์ตกลงกว่า 10% ต่อดอลลาร์สหรัฐ (US) ส่งผลด้านลบต่อภาพรวมการลงทุนของ UK หลังจากที่ถอนตัวออกมา -
ภาวะเศรษฐกิจ
ประเทศที่มีตัวชี้วัดเศรษฐกิจแข็งแรง เช่น การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมสูง (GDP), อัตราการว่างงานต่ำ และผลผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง จะเห็นว่าสกุลเงินของประเทศเหล่านั้นจะเข้มแข็งขึ้น
ในทางกลับกันหากประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจอ่อนแออาจส่งผลในทางตรงกันข้าม
ในเดือนกรกฎาคม 2024 เมื่อตัวเลขการสร้างงานในสหรัฐฯน้อยกว่าที่คาดการณ์ นำไปสู่การปรับตัวลงของมูลค่าดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเปรียบกับสกุลเงินอื่นๆ จะเห็นได้ว่านักเทรดฟอเร็กซ์มืออาชีพจะติดตามข้อมูลทางเศรษฐกิจในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด และแพลตฟอร์มเทรดฟอเร็กซ์ชั้นนำอย่าง TMGM ก็มีปฏิทินเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและกระชับ รวมถึงการคาดการณ์ และตารางเวลาประกาศที่ชัดเจน -
เงินเฟ้อและนโยบายของธนาคารกลาง
อธิบายแบบเข้าใจง่ายคือเงินเฟ้อจะลดอำนาจการซื้อของสกุลเงิน เงินเฟ้อสูงจะส่งผลให้สกุลเงินเสื่อมคุณค่า ธนาคารกลางมีบทบาทสำคัญในการจัดการเงินเฟ้อผ่านยโยบายทางการเงิน เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ย
ปัญหาเงินเฟ้อในตุรกีเป็นตัวอย่างที่ดี อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 61% ในเดือนกรกฎาคม 2024 ส่งผลให้ลีราตุรกีดิ่งลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินเฉลี่ย 5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวันพิสูจน์แล้วว่าตลาดค่าเงินคือสินทรัพย์ที่การเทรดกันมากที่สุด ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าสกุลเงินคืออะไร และปัจจัยอะไรบ้างที่มีผลต่อราคา ต่อไปเรามาดูวิธีการเริ่มต้นเทรดในตลาด Forex กัน
Forex คืออะไร Forex เล่นยังไง
Forex ย่อมาจาก Foreign Exchange คือการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน เวลาเดินทางไปต่างประเทศ คุณจะต้องแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ร้านแลกเงินมักแสดงอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันบนบอร์ดดิจิทัล อัตราแลกเปลี่ยนเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงตามความต้องการซื้อและความต้องการขายของสกุลเงินเหล่านั้น ในการเทรดฟอเร็กซ์ออนไลน์ คุณสามารถซื้อขายสกุลเงินผ่านผลิตภัณฑ์ CFD (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) ที่อ้างอิงการเคลื่อนไหวของราคาคู่เงินต่างๆ ในตลาดจริง ช่วยให้คุณสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินโดยไม่ต้องถือครองสกุลเงินนั้นๆ ดังนั้นหากคุณมีกลยุทธ์การเทรดที่ดี คุณจะเก็งกำไรจากแกว่งตัวของราคาฟอเร็กซ์ทั้งขึ้นและลง
การเปิด BUY (สถานะซื้อ)
ในการเทรดคู่เงินใดๆ หากคุณคาดว่าราคาสกุลเงินหลักจะขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอ้างอิง คุณสามารถเปิดสถานะ BUY ในคู่เงินที่สกุลเงินหลักอยู่ข้างหน้าสกุลเงินอ้างอิง ถ้าราคาสกุลเงินหลักขึ้นจริง คุณสามารถปิดสถานะซื้อ เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา
ตัวอย่าง: GBP:USD (คาดว่า GBP จะขึ้นเมื่อเทียบกับ USD) การเปิดสถานะ BUY ในคู่ GBP:USD ที่ราคา $1.26850 และขายเมื่อราคาเพิ่มขึ้นถึง $1.26910 จะทำกำไร 6 Pips
การเปิด SELL (สถานะขาย)
ในการเทรดคู่เงินใดๆ หากคุณคาดว่าราคาสกุลเงินหลักจะลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอ้างอิง คุณสามารถเปิดสถานะ SELL ในคู่เงินที่สกุลเงินหลักอยู่ข้างหน้าสกุลเงินอ้างอิง ถ้าราคาสกุลเงินหลักลงจริง คุณสามารถปิดสถานะขาย เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา
ตัวอย่าง: การเปิดสถานะ SELL ในคู่ EUR/USD (คาดว่า EUR จะลงเมื่อเทียบกับ USD) การเปิดสถานะ SELL ในคู่เงิน EUR/USD ที่ราคา $1.08450 และปิดเมื่อราคาเคลื่อนลงถึง $1.08320 จะทำกำไร 13 Pips
ด้านล่างคือคู่เงินที่เทรดเดอร์นิยมเทรดกัน:
- EUR/USD
- USD/JPY
- AUD/USD
- USD/CAD
- USD/CNY
- USD/KRW
เข้าใจวิธีการบริหารสถานะการซื้อขายที่คุณเปิดอยู่
โบรกเกอร์ชั้นนำอย่าง TMGM มีเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณบริหารสถานะการซื้อขายของคุณได้อย่างง่ายดาย เช่น คำสั่ง Stop-Loss ช่วยให้คุณกำหนดขีดจำกัดการขาดทุนของสถานะที่คุณเปิดอยู่ และคำสั่ง Take-Profit คือคำสั่งปิดสถานะซื้อขายเมื่อราคาถึงเป้ากำไรที่กำหนด
ตัวอย่างเช่น หากคุณคาดว่า GBP จะขึ้นเมื่อเทียบกับ USD คุณอาจเปิด BUY ในคู่เงิน GBP/USD ที่ราคา $1.2850 พร้อมกับตั้ง Stop-Loss ที่ราคา $1.2800 และ Take-Profit ที่ราคา $1.2900 สถานะซื้อขายนี้มี Risk-Reward Ratio (อัตราส่วนความเสี่ยงต่อรางวัล) เท่ากันคือ 1:1 นั่นหมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะขาดทุน 50 Pips เช่นเดียวกับโอกาสทำกำไร 50 Pips
สิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อจะเทรด Forex
Spread
Spread (สเปรด) ในฟอเร็กซ์หมายถึงความต่างระหว่างราคา Bid (ซื้อ) และราคา Ask (ขาย) ของคู่สกุลเงิน Forex สเปรดที่แคบหมายถึงค่าใช้จ่ายในการซื้อขายต่ำ ราคาเคลื่อนไหวไม่กี่ Pip ก็มีกำไรแล้วLeverage
Leverage (เลเวอเรจ) หรือที่รู้จักกันในนามของ Margin (มาร์จิ้น) นักเทรดสามารถเปิดสถานะซื้อขายขนาดใหญ่ โดยไม่ต้องใช้เงินต้นทุนสูง ที่ TMGM ระดับเลเวอเรจสูงสุดของเราอยู่ที่ 1:1000 เป็นอำนาจการซื้อขายที่สูงกว่าขนาดเงินฝากเริ่มต้นของคุณอย่างมาก นักเทรดควรทำความเข้าใจและใช้งานเลเวอเรจอย่างมีสติ เพื่อการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
ตอนนี้คุณเข้าใจวิธีการเทรด Forex บ้างแล้ว เรามาดูข้อดีของการเทรดฟอเร็กซ์กันต่อ
ข้อดีของการเทรด Forex
ความยืดหยุน
หนึ่งในข้อดีของการการเทรด Forex คือความยืดหยุ่นที่คุณสามารถเก็งกำไรได้ทั้งการขึ้นและลง อยู่ที่มุมมองของตัวเทรดเดอร์เองว่ามองขึ้นหรือมองลงในคู่เงินเหล่านั้น
มีสภาพคล่อง
ตลาดฟอเร็กซ์มีสภาพคล่องสูงมาก มีปริมาณซื้อขายเฉลี่ย 5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวัน ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐมีปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 20 พันล้านดอลลาร์ต่อวันเท่านั้น
การเข้าถึงตลาด 24/5 น่าประทับใจ
ฟอเร็กซ์ CFDs ถูกซื้อขาย 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้สะดวกและมีโอกาสในการซื้อขาย โดยไม่ว่าคนเทรดเดอร์จะอยู่ที่ไหนในโลกี่ละ
เหมาะกับการเทรดสั้น
นอกจากตลาดฟอเร็กซ์จะมีสภาพคล่องสูง ยังสามารถเทรดได้หลายสไตล์ ซึ่งรวมถึงการ Scalping การเก็งกำไรระยะสั้น เปิด-ปิดสถานะการเทรดอย่างรวดเร็ว สะสมกำไรทีละน้อย เน้นเทรดบ่อย และการ Swing Trade คือการเปิดสถานะเทรดและถือสถานะระยะนึงก่อนจะปิดทำกำไรภายในวันหรือข้ามวัน กลยุทธ์นี้นิยมใช้กันช่วงที่ราคามีการกลับตัว หรือช่วงที่ราคามีการพักฐาน
สามารถ Hedging ในตลาด Forex
คุณลดความเสี่ยงจาการขาดทุนในตลาดอื่นด้วยเทคนิคการ Hedging ในคู่เงิน Forex ตัวอย่างเช่น ตลาดน้ำมันดิบมักเคลื่อนไหวตรงกันข้ามกับคู่เงิน USD/CAD หากคุณมีสถานะ BUY ในน้ำมันดิบและคุณคิดว่าราคาน้ำมันกำลังจะปรับตัวลง คุณสามารถเปิดสถานะ BUY ในคู่เงิน USD/CAD เพราะ USD มีแนวโน้มขึ้นหากราคาน้ำมันร่วง
การเทรด Forex เหมาะกับใคร
แน่นอนว่าการเทรด Forex มีข้อดีหลายอย่าง ทั้งเรื่องเวลาเทรดที่เปิดเกือบ 24 ชั่วโมง เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูง สามารถเทรดจากได้ทุกที่บนโลก แต่ถึงกระนั้นคุณต้องทราบว่าราคามีความผันผวนและความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจที่มากเกินพอดี คุณควรตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนเรื่องการเทรด ซึ่งควรจะสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่คุณสามารถยอมรับ ถ้าคุณพร้อมจะรับมือกับความท้าทายนี้ ตามมาดูขั้นตอนต่อไปกันเลย!
อยากเป็นนักเทรด Forex เริ่มต้นยังไง
- หาความรู้จากคลังความรู้ TMGM: เข้าถึงเครื่องมือและแหล่งความรู้ รวมถึงบทวิเคราะห์รายวัน
- เลือกโปรแกรมเทรด: เลือกโปรแกรมเทรดที่เหมาะกับกลยุทธ์การเทรดของคุณ เราแนะนำ 3 โปรแกรมคือ MetaTrader 4, MetaTrader 5, หรือแอปพลิเคชันเทรด TMGM
- ฝึกเทรด: คุณสามารถเปิดบัญชีทดลองกับ TMGM เพื่อทดสอบกลยุทธ์การเทรด Forex ของคุณ หรือเปิดบัญชีเทรดจริง และเริ่มต้นด้วยเงินน้อยนิดเพื่อฝึกรับมือแรงกดดันในสนามจริง ลดความตื่นตระหนก และเสริมความมั่นใจในช่วงที่ฝึกเทรด
การเลือกโบรกเกอร์เทรดฟอเร็กซ์
มีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงเมื่อต้องพิจารณาโบรกเกอร์ที่เหมาะกับการเทรด Forex ตั้งแต่ด้านความปลอดภัย รวมไปถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีให้เลือกเทรด TMGM เป็นโบรกเกอร์ CFD ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานด้านการเงินหลายแห่งเช่น ASIC, VFSC และ FSC
มีคู่เงินให้เลือกเทรดกว่า 50 คู่ สเปรด Bid/Ask บางเฉียบ ซื้อขายอย่างมั่นใจในราคาที่คุ้มค่า เนื่องจากสามารถเทรดด้วยการใช้เลเวอเรจ จึงไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมากในการเทรดคู่เงิน ที่ TMGM คุณต้องฝากเงินขั้นต่ำ $100 และเริ่มต้นเส้นทางการเทรดได้ทันที
คำเตือน: การเทรด CFD มีความเสี่ยง แต่ถ้าคุณมีกลยุทธ์เทรดที่ดี มีวินัยที่ดี และเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการเทรดที่เหมาะสม คุณสามารถทำกำไรจากการเทรดได้อย่างยั่งยืน ร่วมเดินทางไปกับเราปลดล็อกศักยภาพและทักษะด้านการเทรดของคุณกันได้เลย